บทความ / สาระน่ารู้

กินเจอย่างไร ให้สารอาหารยังครบถ้วน

เทศกาลกินเจเป็นช่วงเวลาที่หลายคนตั้งใจละเว้นเนื้อสัตว์เพื่อทำบุญ ล้างกายใจ และพักระบบย่อยอาหาร แต่บางคนกลับรู้สึก “อ่อนเพลีย เวียนหัว หรือขาดแรง” หลังถือศีลเจไม่กี่วัน เพราะร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนอย่างที่ควร

หลักกการของการกินเจ

อาหารเจคืออาหารที่งดเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และหลีกเลี่ยงผักกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หอมใหญ่ กุยช่าย ทำให้แหล่งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุบางชนิดที่ได้จากเนื้อสัตว์ “หายไป” จึงต้องทดแทนให้ดี

1. โปรตีน พลังงานสำคัญที่ห้ามขาด

เลือกจากพืชที่ให้โปรตีนสูง เช่น เต้าหู้, ถั่วเหลือง, ถั่วแดง, ถั่วเขียว, ถั่วลูกไก่, วอลนัท โปรตีนเกษตร หรือเห็ดต่างๆ

เคล็ดลับ: ควรผสมแหล่งโปรตีนหลายชนิดในแต่ละวันเพื่อให้ได้กรดอะมิโนครบถ้วน

2. ธาตุเหล็ก ป้องกันอาการอ่อนเพลีย

ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่สำคัญกับร่างกาย ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะลำเลียงเอาออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากขาดธาตุเหล็กยังทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ธาตุเหล็กยังช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย แหล่งธาตุเหล็กจากพืช ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม (คะน้า, ตำลึง, ผักโขม) และถั่วเมล็ดแห้ง  ควรกินคู่กับผลไม้ที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง หรือมะละกอเพราะจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

3. วิตามินบี 12 และแคลเซียม

วิตามินบี 12 พบในอาหารจากสัตว์เท่านั้น  ผู้ที่กินเจนานควรเสริมด้วยอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีการเติมบี 12  แคลเซียมเลือกจากเต้าหู้แข็ง งาดำ และนมถั่วเหลืองชนิดเสริมแคลเซียม

4. พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต

เลือกข้าวกล้อง มันเทศ ข้าวโพด และธัญพืชแทนการพึ่งแป้งขัดสี เพราะให้พลังงานยาวนานกว่าและมีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน ไม่อ้วนง่าย

เคล็ดลับเล็ก สำหรับสายเจสุขภาพดี

ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 6–8 แก้ว หลีกเลี่ยงของทอดและอาหารเจสำเร็จรูปที่โซเดียมสูง เพิ่มผักสดและผลไม้ทุกมื้อ ออกกำลังกายเบา ๆ ร่วมด้วยวันละ 20–30 นาที
“การกินเจให้ได้บุญ ต้องไม่ลืมดูแลร่างกายให้แข็งแรงด้วย” เมื่อเลือกรับประทานอาหารครบหมู่ โปรตีนพอ ธาตุเหล็กและวิตามินครบ การกินเจก็จะเป็นทั้งบุญและสุขภาพที่ดีในเวลาเดียวกัน

ต้องการปรึกษาเภสัชกร แอดไลน์ : @tlepharmacy หรือ คลิ๊ก